วันหนึ่งเราเจอคนมากมาย หลายคนเดินผ่านกันไป สวนกันไปมา แต่ไม่เคยรู้จักแม้แต่จะจำได้ ไม่ต่างอะไรกับ ต้นไม้ สายน้ำ ก้อนกินที่วางให้เราเดินผ่าน
แต่บางคน เราคุ้นหน้า มีเรื่องต้องปฏิสัมพันธ์ ตั้งแต่น้อย ไปจนถึงมาก บางคนขนาด รู้จักเป็นเพื่อน เป็นเมีย เป็นแม่ เป็นพ่อ เป็นพี่เป็นน้อง
เข้าใจเรื่อง ภพกันอย่างไร ไม่รู้ แต่ผมเชื่อว่าพบก็คือ เขื่อข่าย กรรมเวร ที่ผูกพ่วงกัน ระหว่าง คน สัตว์ สิ่งของ ในห้วงชีวิตนี้ และ คนเกล่านี้ละ ที่ทำให้เรามีความสุข มีความทุกข์ไปตามปัจจัย แวดล้อมที่พุงเขาหาเรา
คนเหล่านั้น ถ้ามาดี ส่งเสริมให้ได้ดี เขาเรียกว่าคู่บุญ แต่ถ้ามาแล้ว นำแต่เรื่องแย่ ๆมาให้เขาเรียกคู่กรรม บางครั้ง แต่อย่างไร พุทธศาสนาก็ให้คำเตือนเอาไว้ให้เกิดสติ เพื่อ หลีกเลี่ยง กรรมที่อาจตามมาสนอง ว่า คบคนพาล พาลพาไปหาผิด คบบัญฑิต บัณฑิตพาไปหาผล
ลักษณะคนถ่อย คือ คนที่เลวทราม ไม่ควรเกี่ยวข้องด้วย 20 ประการมีดังนี้ 1. คนมักโกรธ ผูกโกรธ ลบหลู่ มีทิฏฐิวิบัติ มีมายา 2. คนผู้เบียดเบียนสัตว์ ไม่มีความเอ็นดูในสัตว์ 3. คนผู้เบียดเบียน ปล้น ฆ่า ชาวบ้านและชาวนิคม 4. คนผู้ลักทรัพย์ ของผู้อื่นที่เขาไม่ได้อนุญาตในบ้านหรือในป่า 5. คนที่กู้หนี้มาใช้แล้ว กลับความว่าหาได้เป็นหนี้ท่านไม่ 6. คนที่ฆ่าคนดินทางชิงเอาสิ่งของ เพราะอยากได้สิ่งของนั้น 7. คนที่เป็นพยานแล้วกล่าวคำเท็จเพราะเหตุแห่งตน ผู้อื่น หรือทรัพย์ 8. ผู้ประพฤติล่วงเกิน ในภริยาของญาติ หรือของเพื่อนด้วยข่มขืน หรือด้วยการร่วมรักกัน 9. คนผู้สามารถแต่ไม่เลี้ยงมารดาหรือบิดาผู้แก่เฒ่า 10. คนผู้ทุบตี ด่าว่า บิดา มารดา พี่ชาย พี่สาว แม่ยาย พ่อผัว แม่ผัว 11. คนผู้ถูกถามถึงประโยชน์ พูดกลบเกลือนเสี บอกแต่สิ่งไม่เป็นประโยชน์ 12. คนทำกรรมชั่วแล้ว ปรารถนาว่า ใครอย่าพึงรู้ ปกปิดไว้ 13. คนผู้ไปสุ่สกุลอื่นแล้ว บริโภคโภชนาที่สะอาด แต่ไม่ตอบแทนเขาผู้มาสู่สกุลของตน 14. คนผู้ลวงสมณพรามหณ์ หรือแม้วณิพกอื่นด้วยมุสาวาท 15. คนผู้ด่าสมณพราหมณ์เวลาบริโภคอาหาร หรือไม่ให้โภชนา 16. คนผู้ถูกโมหะครอบงำ ปรารถนาของเล็กน้อย พูดอวดสิ่งที่ไม่มี 17. คนเลวทราม ยกตนข่มผู้อื่นด้วยมานะของตน 18. คนผู้มีความปรารถนาลามก มีความตระหนี่ โอ้อวดไม่ละอายสะดุ้งกลัว 19. คนติเตียนพระพุทธเจ้า สาวกพระพุทธเจ้า บรรพชิต หรือคฤหัสถ์ 20. ผู้ใดไม่เป็นอรหันต์ แต่ปฏิญานตนว่าเป็นพระอรหันต์ เห็นคนแบบนี้ ไม่ว่าเป็นใคร เตือนเอาไว้ทันทีให้ออกห่าง มีสติ ตั้งข้อสังเกตุ เพื่อสู้กรรม เวร ไม่ต้องไปแก้กรรมที่ไหน แก้ง่ายๆ ด้วยสติครับ .......................................................................
Post by :
Posted
17/05/2012 Time
12:15 pm
4607
0
|